สิ่งแวดล้อมดี... วิถีออร์แกนิค
"ออร์แกนิค" มีความหมายว่า "ปลอดสารพิษ"
ทำให้คำว่า ออร์แกนิค นำมาใช้เรียกกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นโดยผ่านกระบวนการผลิตที่ปลอดสารพิษในทุกขั้นตอน ซึ่งกลุ่มเกษตรกรผู้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม มีความคิดว่าการใช้ปุ๋ยวิทยาศาตร์ ยาฆ่าแมลง หรือฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตเพื่อเร่งผลผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคทำให้สารเคมีสะสมมากขึ้นในร่างกายในปริมาณมาก ส่งผลให้เกิดเป็นโรคร้าย และยังเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อระบบนิเวศอันเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน
กลุ่มเกษตรดังกล่าวจึงมีความคิดที่จะทำการเกษตรในแบบออร์แกนิคขึ้น และหันมาเพาะปลูกพืชแบบออร์แกนิคหรือแบบปลอดสารพิษขึ้น โดยหลักการสำคัญของการเกษตรแบบออร์แกนิคคือ ต้องปลอดสารพิษในทุกขั้นตอน โดยการปลูกนั้นจะต้องใช้ความอุดมสมบูรณ์ของดินที่ปลอดสารพิษเป็นตัวแปรสำคัญ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี การใช้ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตและการตัดต่อพันธุกรรมต่างๆ ที่สำคัญ เน้นให้ผลิตผลต่างๆ ออกตามฤดูกาลเท่านั้น ทั้งนี้เกษตรกรออร์แกนิคต้องทำงานหนักในทุกขั้นตอนของการเพาะปลูก รวมทั้งอาศัยความรักและการทุ่มเทแรงกายพร้อมระบบการจัดการที่ดีเพื่อให้ได้ผลผลิตคุณภาพเยี่ยม
เอาเป็นว่า ขออธิบายสั้นๆ 3 ข้อง่ายๆ ว่าอาหารออร์แกนิคคืออะไร ตามไปเลยครับ Let's Go!
ยังไงคือออร์แกนิค?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างมาจากธรรมชาติ
อาหารออร์แกนิคจะไม่ใช้สารสังเคราะห์ใดๆในการปลูกและเพาะเลี้ยงเลยครับ ทั้งผักและเนื้อสัตว์นั้นจะเลี้ยงและโตขึ้นมาด้วยธาตุอาหารจากธรรมชาติล้วนๆ ผักก็จะปลูกบนดินบ้านๆที่ปลอดสารเคมีใช้ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการปลูก ส่วนสัตว์ก็จะเลี้ยงโดยปล่อยอิสระ ไม่มีการขุนหรือให้อาหารสังเคราะห์ใดๆเพื่อให้โตเร็วแบบในอุตสาหกรรมใหญ่ เรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบ Back to Nature ธรรมชาติล้วนๆ 100% ส่วนประกอบทุกอย่างนั้นจึงบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีสารพิษมาช่วยก่อมะเร็งครับ
Photo by suzettesuzette
2. ไม่ใช้สารเคมีใดๆเลย
อาหารออร์แกนิคนั้น ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ หากมีการใช้สารเคมี ก็ไม่ถือว่าเป็นออร์แกนิคแล้วครับ การไม่ใช้สารเคมีที่ว่าก็หมายถึง ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ไม่ใช้สารกระตุ้นหรือสารเร่งการเจริญเติบโตกับสัตว์ ถ้าบางเจ้ามีการใช้สารเคมีเล็กๆน้อยๆเท่าที่จำเป็น ก็อาจจะเรียกว่าเป็น "95%ออร์แกนิค" หรือกี่เปอร์เซ็นต์ก็ว่ากันไป ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีป้ายบ่งบอกความเป็นออร์แกนิคไว้ 3 ระดับ คือ 100%Organic(ธรรมชาติ 100%) Organic(ธรรมชาติ 95%ขึ้นไป ใช้สารสังเคราะห์เพียงเล็กน้อยเท่าที่จำเป็น) และ Made with Organic Ingredient (ธรรมชาติ 70%ขึ้นไป ถ้าต่ำกว่านี้ไม่ถือว่าเป็น Organic ครับ) ซึ่งป้ายบ่งบอกเปอร์เซ็นต์แบบนี้ ตอนนี้พบได้ทั่วไปในอเมริกาและแคนาดาครับ ผู้บริโภคที่โน่นเค้าช่างเลือกซะด้วย อาหารที่เป็น Organic100% จึงขายดี และคนทำฟาร์มรุ่นใหม่ๆก็เริ่มจะหันไป Go Organic กันมากขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ
*ผักไฮโดรโปนิคก็ไม่ถือว่าเป็นออร์แกนิค ไฮโดรโปนิคเป็นวิธีการปลูกผักโดยใช้น้ำแทนดิน เป็นวิธีปลูกผักที่ประยุกต์ใช้ในเมืองที่หาพื้นดินได้ยาก แน่นอนว่าใช้สารเคมีในน้ำใช้ที่ปลูกด้วย จึงไม่ถือว่าเป็นออร์แกนิค 100% ครับ
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการผลิต
อาหารออร์แกนิคนั้น นอกจากจะมุ่งให้คนกินมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์อีกอย่างก็คือการลดมลพิษให้กับธรรมชาติครับ เพราะการใช้สารเคมีเช่นยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่างๆ จะทำให้มีสารพิษตกค้างอยู่ในดิน ในอากาศ และในน้ำ ซึ่งกว่าจะสลายไปได้นั้นก็อาจกินเวลาเป็นสิบๆปีเลยทีเดียว วิธีการปลูกแบบธรรมชาติแบบนี้จึงเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไปแล้ว นอกจากจะได้อาหารที่ไม่มีสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษได้ด้วย
ทำไมเราจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค
เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคนั้นมีราคาสูงกว่าสินค้าทั่วไป เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตที่สูงตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมดินที่ต้องใช้เวลานาน การเลือกปลูกแต่พืชผักตามฤดูกาล การหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีในทุกขั้นตอน การเก็บเกี่ยวและการจัดส่งที่คำนึกถึงความสดใหม่อยู่เสมอ แต่หากพิจารณาให้ลึกซึ้งถึงข้อดีที่จะได้รับกลับคืนมานั้นมีมากมาย อีกทั้งในปัจจุบันหลายหน่วยงานพยายามมุ่งให้ความรู้เกษตกรถึงข้อดีของการเกษตรกรออร์แกนิคในระยะยาวที่จะให้ผลผลิตในปริมาณสูงกว่าการเกษตรทั่วไป และมีการนำเข้าสินค้าออร์แกนิคหลายประเภทจากทั่วโลกเพื่อจำหน่าย ทำให้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคในท้องตลาดมีราคาไม่แพงจนเกินไป เพื่อให้เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้บริโภคที่จะสามารถใช้ชีวิตในแบบออร์แกนิคได้อย่างยั่งยืนและมีสุขภาพดีอีกด้วยครับ
ยินดีให้คำแนะนำ สมุนไพรปัญจระ สูตร ถั่งเช่า บำบัดโรค ต่างๆ
Tel. / Line : 085 119 9519 คุณมนต์ชัย